|
||
ในทางการแพทย์ได้ระบุสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคนี้ คือ ความเครียด พันธุกรรม การพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยคนส่วนมากคิดว่าเป็นการติด หรือการอักเสบของหนังศรีษะ แต่ที่จริงแล้วโรคนี้ไม่ใช่เลย และมันสามารถลุกลามเป็นจากวงเล็กกลายเป็นวงใหญ่ขึ้นจนเป็นเต็มศีรษะได้ ล้านหมดหัวนั่นเอง และอาจจะมีผลกับมีขนคิ้ว ขนตา หนวดเคราได้ ผู้หญิงและผู้ชาย
1. ยาสเตียรอยด์ (Corticosteroids) มีฤทธิ์ลดการอักเสบและกดการสร้างภูมิคุ้มกัน มีการใช้ทั้งในรูปของยาทาเฉพาะที่, ยากิน และยาฉีดเฉพาะที่เข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่มีผมร่วง สเตียรอยด์ที่นิยมใช้ได้แก่ Clobetasol หรือ Fluocinonide และที่อยู่ในรูปของยาทาหรือ ยาฉีดเฉพาะที่ ในรูปของยาฉีดมักใช้เมื่อผมร่วงเป็นหย่อมเล็กที่บริเวณหนังศีรษะหรือร่วงที่ บริเวณคิ้วหรือหนวด การฉีดจะต้องฉีดทุก ๆ 3 – 6 สัปดาห์ ถ้าเป็นในระยะแรกอาจรักษา โดยการใช้ยาสเตียรอยด์บริเวณที่หลุดร่วง อย่างไรก็ตามการทายาเพียงอย่างเดียวอาจได้ผลไม่ดีนัก เนื่องจากการดูดซึมของยาผ่านบริเวณหนังศีรษะจนถึงระดับของรากผมอาจน้อยกว่า ปริมาณของยาที่ต้องการในการรักษา การรักษาจะเริ่มเห็นผลเมื่อใช้ยาต่อเนื่องไปเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน การใช้ยาสเตียรอยด์ในรูปของยากินได้ผลดีในการลดผมร่วง แต่อาจพบผลข้างเคียงจากการใช้ยาได้ เนื่องจากต้องใช้ยาเป็นระยะเวลานานจนกว่าโรคจะสงบเอง หากหยุดยาก่อนผมจะกลับมาร่วงใหม่ได้ ดังนั้นจึงนิยมใช้ในกรณีที่มีผมร่วงเป็นวงกว้าง หรือมีขนร่วงร่วมด้วย หรือใช้ในช่วงระยะแรกในการรักษา ร่วมกับยาทา
2. ยาทาไมนอกซิดิล 5% (Topical minoxidil 5% solution) ยาชนิดนี้สามารถกระตุ้นผมขึ้นใหม่ได้ ในช่วง 6-12 เดือนแรกของการรักษาอาการผมร่วงโดยใช้ยาน้ำ ไมน๊อกซิดิล สูตร 5% นั้น ให้ทาตัวยาวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน ภายหลังการสระผม และรอจนกว่าผมและหนังศีรษะแห้งดีแล้ว วิธีการทายาให้ทาตัวยาโดยตรงที่บริเวณ หนังศีรษะที่ต้องการจะปลูกผมให้ขึ้นมาใหม่ ได้ทั้ง หนวด เครา คิ้ว ยาชนิดนี้สามารถใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ การขึ้นใหม่ของผมจะเริ่มสังเกตเห็นได้เมื่อใช้ยาต่อเนื่องไประยะเวลาประมาณ 3 เดือน ถ้าผลออกมาผมยังขึ้นไม่เป็นที่หน้าพอใจก็ให้เพิ่ม % จากยาทาไมนอกซิดิล 5% เป็นยาทาไมนอกซิดิล 10 % ได้
3. แอนทราลิน (Anthralin) ลักษณะเป็นผงถ่านสังเคราะห์ มีฤทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการทำงานของภูมิคุ้มกันที่บริเวณผิวหนัง วิธีใช้ทายาไว้บริเวณที่มีผมร่วง 20 – 60 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังส่วนศีรษะเกิดการระคายเคือง และผิวหนังบริเวณที่ทายามีสีคล้ำขึ้นได้ ในบางครั้งอาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกันในการรักษาผมร่วงเป็นหย่อม ๆ